1. ค่าเสื่อมคลังสินค้าหรือโกดัง
ค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนหลักตัวแรก คือค่าเสื่อมอาคารคลังสินค้าหรือโกดัง ซึ่งก็คือมูลค่าการก่อสร้างของคลังสินค้าหรือโกดังของท่าน แต่มีระยะเวลาที่ท่านสามารถใช้งานอาคารนั้น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยปกติแล้วค่าเสื่อมคลังสินค้าตามหลักของบัญชีจะคิดอยู่ที่ 20 ปี
2. ค่าเช่าคลังสินค้าหรือโกดัง
ในกรณีที่ท่านผู้ประกอบการไม่ได้สร้างคลังสินค้าหรือโกดัง แต่เลือกใช้เป็นการเช่าคลังสินค้าหรือเช่าโกดังแทน กรณีนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนที่เกี่ยวกับค่าเสื่อมอาคาร แต่ค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนหลักจะกลายเป็นค่าเช่าคลังสินค้าหรือค่าเช่าโกดังแทน ซึ่งโดยปกติแล้วค่าเช่าโกดังคลังสินค้าจะจ่ายเป็นรายเดือน สามารถคำนวนหาค่าเช่าที่ต้องจ่ายต่อปีได้ โดยการนำค่าเช่าต่อเดือนคูณด้วยจำนวน 12 เดือน
3. ค่าเสื่อมของอุปกรณ์สำนักงานและค่าอุปกรณ์สิ้นเปลือง
อุปกรณ์สำนักงาน เช่น คอมพิวเตอร์ พรินท์เตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น ที่สำหรับไว้ใช้ในหน่วยงานคลังสินค้า ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะคิดค่าเสื่อมอยู่ที่ 3-5 ปีแล้วแต่บัญชีของแต่ละบริษัท ซึ่งต้องนำมาร่วมคำนวณเป็นต้นทุนของโกดังหรือคลังสินค้าด้วย
4. ค่านํ้า ค่าไฟฟ้าค่าโทรศัพท์ และค่าอินเตอร์เน็ต
ค่านํ้า ค่าไฟฟ้า และค่านํ้ามันเชื้อเพลิง ถือเป็นอีกหนึ่งในค่าใช้จ่ายหลักของคลังสินค้า โดยเฉพาะบางคลังสินค้าที่มีระบบห้องเย็นหรือมีการทำงานเป็นกะแบบ 24 ชั่ว โมง ยิ่งทำให้ค่านํ้าและค่าไฟมีอัตราการใช้ที่สูงตามไปด้วย ค่านํ้าและค่าไฟฟ้าสามารถนำมาคำนวณได้โดยการรวบรวมค่านํ้าและค่าไฟฟ้าที่คลังสินค้าใช้จริงในแต่ละเดือน นำมารวมคำนวณเป็นต้นทุนคลังสินค้าแบบรายปี
5. ค่าประกันภัยในคลังสินค้า
บริษัทโดยส่วนใหญ่ที่มีคลังสินค้าจะมีการทำประกันภัยทั้งสำหรับสินค้าคงคลังและสำหรับอาคารคลังสินค้า ซึ่งค่าเบี้ยประกันทั้งสองประเภทนี้นับว่าเป็นค่าใช้จ่ายหรือต้นทุน สำหรับคลังสินค้า โดยปกติแล้วเบี้ยประกันอาคารและสินค้าคงคลังจะชำระเป็นรายปี ส่วนค่าเบี้ยจะมากหรือน้อยนั้นจะขึ้นอยู่กับทุนประกันและเงื่อนไขความคุ้มครองต่าง ๆ ตามแต่ตกลงกับบริษัทประกันภัย